
เว็บไซต์แสดงผลได้ดีบน browser นะคะ
WELCOME
ต้องการบริจาคค่าขนม
คลิกปุ่มด้านล่างได้ค่ะ


[SF/Song] Have No Idea {DM/♀HP}
18/10/2017 by White&Fai
*แรงบันดาลใจจากเพลง Time Well Spent ที่พี่ทอม เฟลตัน นักแสดงบทเดรโก มัลฟอยร้องนะคะ #ติ่งเขา #รักเขา #แนะนำให้ไปฟังเพลงเขา—
*ฟิคนี้เป็น AU มหาลัยสั้นๆ ไม่เกี่ยวกับโลกเวทย์มนตร์ทุกคนคือมักเกิ้ล(...) เรียนอยู่มหา'ลัยฮอกวอตส์
*ท่อนเพลงจะขาดๆหายๆ เพราะอยากให้คิดว่าระหว่าวพวกรอนคุยกันเดรโกก็ยังร้องเพลงอยู่ค่ะ
*เราใช้เนื้อเพลงเวอร์ชั่นที่พี่เขาลงขายใน iTunes นะคะ จะไม่เหมือน madley ใน youtube feltbeats
>>> iTunes <<<
>>> Lyrics <<<
*อายุเดรโกเท่าพี่ทอมตอนที่ร้องเพลงนี้ค่ะ (ประมาณยี่สิบ /ปี2007)
*แฮร์รี่เป็นสาวน้อยนะคะ
รอน วิสลีย์และเฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์จ้องนิ่ง
เบื้องหน้าของพวกเขาคือคุณชายผู้อ้างตัวว่าสูงส่งนักหนาจากตระกูลที่มีชื่อเสียงไปทั่วอังกฤษ (—หรือยุโรป— ธุรกิจครอบครัวนี้ครอบคลุมทวีปนี้และบางส่วนของเอเชียกับอเมริกาด้วยซ้ำ) อย่าง มัลฟอย กำลังนั่งอยู่บนโต๊ะทานอาหารของโรงอาหารรวมประจำมหาวิทยาลัยฮอกวอตส์ มือทั้งสองข้างถือกีต้าร์โปร่งสีน้ำตาลเข้มเอาไว้มั่นพลางดีดทำนองไปเพลินๆ
พวกเขามองเห็นเพื่อนสนิทของพ่อคุณชายทั้งสามคน: เบลส ซาบินี่, ธีโอดอร์ น็อตต์ และ แพนซี่พากินสัน กำลังนั่งคุยหยอกล้อแบบไม่มีทีท่าจะสนใจการกระทำประหลาดของคุณชายมัลฟอยแม้แต่น้อย
"มันเป็นบ้าอะไร"
รอนพึมพำข้างๆ เฮอร์ไมโอนี่ สาวเจ้ายักไหล่ตอบเขาด้วยความงุนงงไม่แพ้กัน
รอน วิสลีย์ไม่เคยชอบเดรโก มัลฟอย
พ่อของพวกเขาเคยรู้จักกัน เพราะลูเซียส มัลฟอยเป็นรุ่นพี่คณะเดียวกันกับอาเธอร์ วิสลีย์ ประเด็นก็คือตระกูลมัลฟอยดูถูกตระกูลวิสลีย์เอาไว้ไม่น้อย และพวกเขาสองตระกูลมักจะแข่งขันทางการค้าและธุรกิจอย่างงี่เง่า (รอนกรอกตา เขาเบื่อหน่ายเรื่องพวกนี้เหลือเกินเชียว) และอาเธอร์พ่อของเขาก็มักจะโดนคุณมัลฟอยตอกหน้าที่ไม่ประสบความสำเร็จด้านการค้าและธุรกิจแม้แต่น้อย
โชคดีที่สองปีก่อนพี่ชายฝาแฝดของเขาเฟร็ดและจอร์จ วิสลีย์กู้ชื่อเสียงของพ่อเขาได้โดยการเป็นร้านเกมวิสลีย์ที่รู้จักกันไปทั่วโลก เล่นเอาพวกมัลฟอยไม่มาตอแยพวกเขาถึงสองปีเต็ม อัศจรรย์ใจจริง
โอเค แต่สาเหตุที่เขาไม่ชอบคุณชายมัลฟอยมันไม่ใช่เพียงเพราะพ่อของพวกเขา แต่เป็นเพราะเจ้าบ้านี้ชอบมายุ่งวุ่นวายกับพวกเขา! ไม่มาหาเรื่องก็พูดจาถากถางใส่เขาหรือเฮอร์ไม่โอนี่! โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับ—
♪ And I was woken by the thought in my head,
“Time to see the world and get up out of this bed.” ♪
นัยน์ตาสีฟ้าสดของรอนตวัดขวับเมื่อเสียงอันไม่พึงประสงค์(ในความคิดของเจ้าตัวเขา)จากโต๊ะอาหารของคุณชายมัลฟอยดังขึ้นกระทันหัน
"เห็นดีดกีต้าร์เล่นตั้งนานนึกว่าจะร้องเพลงไม่เป็นเสียอีก" รอนเบ้หน้า ก่อนจะรู้สึกสดชื่นขึ้นมาเมื่อเห็นใครบางคนกำลังเดินตรงมาที่โต๊ะของเขากับเฮอร์ไมโอนี่
"ขอโทษนะ" เสียงหวานใสเอ่ยบอก "อาจารย์เสนปเขาเรียกฉันไปคุยอะไรนิดหน่อย"
"ไม่เป็นไรจ้ะ" เฮอร์ไมโอนี่เอ่ยบอก ในขณะที่รอนหน้าซีดลง
"เสนปเหรอ? เขาเรียกเธอไปคุยอะไร"
"ก็ไม่มีอะไรมากหรอก" เด็กสาวตรงหน้ากล่าวตอบด้วยรอยยิ้ม
♪ The clock’s ticking, but I don’t mind
Because there’s no where else I’d rather spare my time. ♪
นัยน์ตาสีเขียวมรกตสวยสดของเด็กสาวมองไปยังโต๊ะของคุณชายมัลฟอยอย่างประหลาดใจ รอนกรอกตาแล้วบอกว่าอย่าสนใจเลย ในขณะที่เฮอร์ไมโอนี่หรี่ตาลง
สาวเจ้าทำท่าว่าจะผินใบหน้ากลับมาและเลิกสนใจตามคำพูดของเพื่อนหนุ่มคนสนิท แต่ท่อนขึ้นต่อมากลับเล่นเอาหล่อนสะดุ้งโหยง
เฮอร์ไมโอนี่ขมวดคิ้ว
♪ And I remember sharing lips with her… ♪
วินาทีนั้นนัยน์ตาสีมรกตได้สบเข้ากับนัยน์ตาสีฟ้าซีดที่จ้องตอบมาอย่างมีความหมาย
รอนเริ่มบ่น
♪ Because time with her is like no other –
She can make a winter’s day feel like the summer.
And it’s oh so nice to have her alone,
‘Cause you know I made her leave her mobile phone at home.♪
เฮอร์ไมโอนี่เห็นคุณชายกระตุกยิ้ม ในขณะที่เด็กสาวตรงหน้าหล่อนรีบหันหน้าหนีกลับมา ท่าทางล่อกแล่กน่าสงสัย ไหนจะพวงแก้มนุ่มนิ่มที่เริ่มเจือสีชมพูนั่นอีก
♪The clock’s ticking, but I don’t mind
Because there’s no one else I’d rather share my time.♪
และตอนนี้มัลฟอยลุกขึ้นแล้ว
♪ And I have no idea
Where those weeks gone went.
But I know that it’s time well spent.♪
"มันทำอะไร" รอนจ้อง
เฮอร์ไมโอนี่มองปฏิกิริยาของเพื่อนสาวตรงหน้าหล่อนที่ตอนนี้ใบหน้าหวานสวยล้ำขึ้นสีระเรื่ออย่างปิดไม่มิด นัยน์ตาสีเปลือกไม้เฝ้าสังเกตและประมวลผลเงียบๆ
♪ But I know that it’s time well spent. So I sing…♪
เดรโก มัลฟอยดีดกีต้าร์เสียงเบาลง เดินตรงดิ่งมาที่โต๊ะของพวกเขา โดยไม่หยุดร้องเพลงและเล่นกีต้าร์ในมือเจ้าตัวเลยแม้แต่น้อย รอนถลึงตาใส่ด้วยความหงุดหงิด ส่วนเฮอร์ไมโอนีตีสีหน้าบางอ้อขึ้นมาในที่สุดเมื่อเห็นสายตากรุ้มกริ่มของคุณชายและท่าทีเขินอายม้วนต้วนของเพื่อนสาวคนสนิท มันอะไรยังไงเมื่อไหร่กันล่ะนี่
♪ My first fight, my first fall for a girl…You know I – I wouldn’t swap those few years for the world ♪
แล้วรอนก็แทบลุกไปกระชากคอเสื้อมัลฟอยที่อยู่ตรงข้ามกับเขาเมื่อไอ้คุณชายมันถือวิสาสะนั่งลงข้างๆ เพื่อนสาวที่พยายามหลบเลี่ยงอย่างเต็มที่ เฮอร์ไมโอนี่คว้าแขนรอนไว้แล้วรอดูว่าคุณชายจะทำอะไรต่อไป โดยที่ริมฝีปากอมชมพูอดแต้มยิ้มเล็กๆ ไม่ได้
♪ So I sing ♪
"ว่าไง พอตเตอร์"
เมื่อร้องเพลงจบเสียงทุ้มนุ่มก็เอ่ยทำนองเย้าแหย่เด็กสาว ผู้ที่กำลังหลบหน้าหลบตาเขาสุดฤทธิ์ เขากระตุกยิ้ม วางกีต้าร์ตัวเก่งลงข้างๆ กายแล้วคว้าจับเอวอรชรดึงเข้าหา เฮเธอร์สะดุ้งโหยงหน้าแดงวูบวาบ
"เฮ้ย! แกจะทำอะไร!!"
รอนลุกพรวดทันที ฝั่งคุณชายเลิกคิ้วขึ้นสูง ไม่สะทกสะท้าน
"อะไรกันวิสลีย์" เอ่ยเสียงยานคาง "คนรักกันเขาจะสวีทหวานกันนายอย่าเข้ามายุ่มย่ามให้รำคาญใจจะดีกว่า"
"ห๊ะ?"
รอนถึงกับสตั๊นท์ค้าง ส่วนเฮอร์ไมโอนี่ก็พึมพำเบาๆ ว่า นั่นไงล่ะ... ขณะนั้นเฮเธอร์กำลังยกมือขึ้นปิดหน้าด้วยความอาย และยิ่งอายแทบอยากแทรกแผ่นดินหนีไปอีกเมื่อได้ยินเสียงผิวปากร้อง "ฮิ้ว" ดังมาจากโต๊ะของเดรโก ที่มีเพื่อนๆ เขานั่งชมอยู่นานแล้ว
"เมื่อเช้านี้เธอไม่ได้ทักทายฉันเลย"
พ่อคุณชายตัวดีกระซิบชิดริมหูสาวน้อยในอ้อมแขนที่ตัวเองเคลมว่าเป็นคนรัก มืออีกข้างว่างๆ ก็เชยคางมนขึ้นให้ดวงแก้วมรกตสบตา เฮเธอร์เสมองทางอื่นทันที
"ไม่เอาหรอก" สาวเจ้าพูดเสียงอ่อน แผ่วเบา "ฉันอายเขา" เสียงของสาวน้อยออกมาสั่นระริก จนเดรโกอยากรังแกคนตรงหน้าแทบขาดใจ แฟนเขาช่างน่ารักอะไรอย่างนี้!
"ไม่เห็นจำเป็นต้องอายเลยนี่ มันไม่ใช่เรื่องน่าอายสักหน่อย เธอเป็นแฟนของฉันเดรโก มัลฟอยลูกมหาเศรษฐีเลยนะ"
ไม่วายอวดสรรพคุณตัวเองตามนิสัย ให้รอนร้องยี๊เล่นในใจ
"นายมันหน้าด้านมัลฟอ— หยุด! หยุด!!"
ไม่ทันได้พูดจบประโยคก็ต้องร้องเสียงหลงเมื่อชายหนุ่มโน้มใบหน้าเข้ามาแบบไม่มียางอายสายตาประชาชี รอนตาโตแทบถลนกับสิ่งที่เห็น ปรี่อ้อมโต๊ะอย่างรวดเร็วเพื่อดึงเพื่อนสาวออกมา แต่กระนั้นริมฝีปากได้รูปของคุณชายตระกูลดังก็ทาบทับบนเรียวปากอวบอิ่มของเด็กสาวดาวคณะเป็นอันเรียบร้อย
จูบดูดดื่มเสียด้วย ต่อหน้าคนทั้งโรงอาหาร
เฮเธอร์ไม่มีเวลาสนใจเสียงพูดคุยด้วยความตกใจตกตะลึงตื่นเต้นและอื่นๆ หรือเสียงโวยวายของรอน หรือเสียงห้ามปรามของเฮอร์ไมโอนี่ หรือแม้แต่เสียงแซวไม่ยั้งของเพื่อนๆ เดรโก เพราะเดรโกเล่นกอบโกยความหวานเท่าที่เขาจะหาได้ จนร่างอรชรอ่อนระทวยไปหมด
"อื้อ—"
สาวน้อยดาวคณะขวัญใจคนทั้งมหาลัยร้องประท้วงเล็กๆ มือเรียวงามทุบลงบนไหล่กว้างของคนที่เคลมว่าเป็นแฟนหนุ่มของหล่อนเบาๆ อย่างอ่อนแรง
"เดร—"
เสียงหวานเสนาะขาดห้วงเมื่อเจอการจูบกดย้ำๆ จากคุณชายจนปากชมพูอวบอิ่มนั่นจะช้ำแหล่มิช้ำแหล่ เมื่อพอใจแล้วเขาจึงค่อยถอนจูบออกแล้วยกนิ้วชี้เกลี่ยแก้มกลมนุ่มของเด็กสาวอย่างรักใคร่
เฮเธอร์เพิ่งจะสังเกตโพสิชั่นตัวเองเอาก็ตอนนี้...
นี่ถูกย้ายมานั่งชิดติดอยู่บนตักไอ้คุณชายจอมฉวยโอกาตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย!?
พนันได้เลยว่าหล่อนหน้าแดงยิ่งกว่าลูกตำลึงสุก และเนื่องจากถูกล็อกอยู่ในอ้อมแขนของคนตรงหน้า สาวเจ้าจึงทำอะไรไม่ได้นอกจากซุกหน้าแดงซ่านลงกับอกคนตรงหน้าเพื่อซ่อนจากสายตาประชาชีในมหา'ลัย เฮเธอร์ได้ยินเสียงตึงตังราวมีอะไรร่วงลงไปกับพื้น แต่ก็ไม่ได้สนใจเท่าไรนัก "ทำอะไรน่าอายที่สุดเลย! ตาบ้า!"
"เธอไม่รู้หรอก เฮเธอร์" ได้ยินแฟนสาวดุเขาก็กระตุกยิ้ม ก้มหน้าลงกระซิบคำชิดใบหูที่แดงเถือกอย่างน่ารักน่าแกล้ง "ว่าฉันต้องอดทนมากแค่ไหนที่จะไม่บุกเข้าหอพักเธอเมื่อคืนนี้เพื่อคว้าเธอมากอดแล้วพร่ำบอกว่า ฉันรักเธอ และฉันยังต้องอดทนที่จะไม่ดึงเธอเข้ามาจูบตลอดทั้งเช้านี้ด้วย"
เธอไม่รู้หรอกว่า เธอทำให้ฉันตกหลุมรักซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนหาทางปีนขึ้นจากหลุมไม่เจอแล้ว...
จริงๆ นี่ลังเลกับการตั้งชื่อแฮร์รี่เวอร์สาวน้อยมาก ชื่อคอมม่อนสุดคง 'แฮร์เรียต' แต่ในขณะเดียวกัน ส่วนตัวเราเองชอบชื่อ 'เฮเธอร์' มากๆ เลยค่ะ
รู้สึกว่า อืม ชื่อ เฮเธอร์ (Heather) ฟังดูบริสุทธิ์ดี ความหมายก็ดี แถมเป็นชื่อดอกไม้เหมือนลิลลี่ด้วย! (เอาจริงๆ ชื่อนี้มันจะออกเสียงว่า เฮียเธอร์ / ฮีเธอร์ แต่เรารู้สึก เฮเธอร์มันน่ารักกว่า ๕๕๕) เลยคิดว่าถ้าเจมส์กับลิลลี่ได้ลูกสาวก็น่าจะตั้งชื่อลูกเป็นดอกไม้น้า... เอาชื่อนี้นั่นแหละ!