Prologue : บทนำ
- White&Fai
- Nov 10, 2017
- 1 min read
หลังจากทุกๆ อย่างสงบลง เมื่อปราศจากจอมมาร โลกเวทย์มนตร์ก็เข้าสู่ช่วงเวลาแห่งความสงบสุข ทุกๆ อย่างดูเหมือนจะดำเนินไปได้ด้วยดีมากขึ้น เด็กชายผู้รอดชีวิตเป็นที่ชื่นชอบ ยกย่อง สรรเสริญของหลายๆ คน
แต่ตัวของเด็กชายผู้รอดชีวิตนั้น...
ภายในใจของเขาช่างว้าเหว่ เศร้าสร้อย เจ็บปวด อ่อนล้า และโดดเดี่ยวเหลือเกิน...
...เมื่อคนที่เขารักและไว้ใจล้วนแล้วแต่จากไป ในสงครามครั้งนี้
...ทั้งพ่อทูนหัวของเขา ซีเรียส แบล็ก...
...ทั้งศาสตราจารย์ที่เขาเคารพรัก รีมัส ลูปิน...
...ทั้งอาจารย์ใหญ่ที่เขารักและเชื่อใจ อัลบัส ดัมเบิ้ลดอร์...
...ทั้งศาสตราจารย์วิชาปรุงยาที่เขานั้นเกลียดแสนเกลียดและไว้ใจในเวลาเดียวกัน เซเวอรัส สเนป...
...และอีกหลายๆ คนที่ล้วนแล้วแต่มีความสำคัญกับเขาทั้งนั้น...
ชื่อเสียงความโด่งดังใดๆ เขาไม่เคยต้องการมันเลยทั้งชีวิตนี้ สิ่งที่เขาอยากได้ความอบอุ่น อยากมีครอบครัว ครอบครัวที่อบอุ่นและสงบสุข เป็นความปรารถนาหนึ่งเดียวของเขาที่มี ในช่วงเวลาที่เจ็บปวด โดดเดี่ยว เศร้าสร้อย อ้างว้างและว้าเหว่ เขาแค่อยากมีใครสักคนที่เข้าใจเขา คอยอยู่เคียงข้างเขา ไม่จำเป็นต้องมีคำพูดปลอบประโลมหรือพร่ำบอกคำพูดแสนสวยหรู แค่อยู่ด้วยกัน เป็นกำลังใจให้กันก็พอ
ไม่รู้ว่าต้องทนรออีกนานแค่ไหนกว่าความปรารถนานั่นของเขาจะเป็นจริง...
แต่ก็นั่นแหละ มันเคยเกือบจะเป็นจริงแล้วครั้งหนึ่งในตอนที่ซีเรียส พ่อทูนหัวของเขาชวนให้เขาไปอยู่ด้วยที่คฤหาสน์ตระกูลแบล็ก แต่ทั้งหมดก็มลายหายไปเมื่อทางกระทรวงเวทมนตร์ดูจะยังเข้าใจผิดพ่อทูนหัวของเขาอยู่ เขาพลาดโอกาสนั้นไป...
และเขาก็พลาดในครั้งต่อๆ มา เมื่อพ่อทูนหัวของเขาโดนฆ่าตาย โดยเบลลาทริกซ์ เลสแตรงจ์ แม่มดที่ภัคดีต่อเจ้าแห่งศาสตร์มืด เขาสูญเสีย ‘พ่อ’ อีกคนไปเสียแล้ว หัวใจของเขาราวถูกกดดัน ถูกกรีดแทงให้ว่างเปล่ายิ่งขึ้น และยิ่งขึ้น
ยิ่งมีคนสำคัญจากไปต่อหน้าต่อตาก็ยิ่งเจ็บปวด... นอกจากนี้กับแฮกริด ผู้ดูแลสัตว์วิเศษและสอนวิชานี้ให้กับเขาเขาเคยสนิทกับแฮกริดอยู่มาก แต่เมื่อเขาเริ่มโตขึ้นเราก็เริ่มห่างเหินกันแล้ว มันเลยยิ่งทำให้เขารู้สึกเดียวดายมากขึ้นไปอีก ไหนจะเพื่อนสนิทของเขาทั้งสองคนที่ตอนนี้คบกันเป็นแฟน มันยิ่งทำให้เขาดูแปลกแยกยิ่งขึ้นไปอีก
แม้เพื่อนทั้งสองคนจะคอยปลอบและคอยให้กำลังใจเขาตลอดเวลาก็ตาม...
ในตอนนี้ตัวของเขานั้นราวกับถูกดึงลงสู่ความมืดมิด โดยมีเชือกสีดำพันธนาการเขาเอาไว้และดึงเขาให้เข้าไปสู่ความมืดมิดเรื่อยๆ และทำได้เพียงแต่รอเวลา... รอคอยวันที่เชือกเหล่านี้จะคลายและหายไป ให้เขาได้กลับไปสู่แสงสว่างอีกครั้งหนึ่ง...
...ทั้งที่ความเป็นจริงแล้วชีวิตของเขาแต่ไหนแต่ไรมาก็ราวจมดิ่งสู่ความมืดมิดเสมอ
...และมันก็กำลังจมลงไปเรื่อยๆ... เรื่อยๆ จนกว่าจะถึงก้นบึ้ง...
...ของความมืดมิดอันไร้ซึ่งทางออกนั่น...
และเขาคงไม่มีวันจะได้พบแสงสว่างที่แท้จริง

ต่อจากนี้ไป...
ชีวิตของเขา คงเข้าสู่ความสงบ...
ความสงบที่หยุดนิ่งอยู่ในเงามืด...
เงามืดมิด อันไรซึ่งทางออก...
ไม่มีวันที่เขาจะได้พบแสงสว่าง....
ไม่มีวัน...
“ฉันต้องมีชีวิตอยู่อย่างโดดเดี่ยวแบบนี้... ไปถึงเมื่อไหร่กัน...?”
コメント